Image from Google Jackets

กลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย : วิทยานิพนธ์ = Strategies for creating a competitive advantage in the elderly care business in Thailand. / ศุภศิริ โปศิริ

By: Material type: TextTextPublication details: เพชรบุรี : สาขาวิชาการบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2565Description: 121 แผ่น : 30 ซม. + ซีดีรอม 1 แผ่นOther title:
  • Strategies for creating a competitive advantage in the elderly care business in Thailand
Subject(s): Genre/Form: DDC classification:
  • วพ 658.85 ศ662ก 2565
Online resources: Dissertation note: วิทยานิพนธ์(บธ.ม.)—มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2565 Summary: การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันเป็นปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา อุปสรรค และการดำเนินงานของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 2) วิเคราะห์องค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยและ 3) ประเมินองค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้ใช้การศึกษาแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ คณะกรรมการสมาคมส่งเสริมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ นักวิชาการ และผู้ประกอบการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน ด้วยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาส่วนการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างส่วนที่ 1 คือ ผู้บริหารธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 400 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และกลุ่มตัวอย่างส่วนที่ 2 คือ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบประเมินความเหมาะสม ของกลยุทธ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบ ผลการวิจัยพบว่า 1. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดา ให้บริการแบบรายเดือนผู้ประกอบการไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุโดยตรง ขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีอัตราการเข้าออกงานสูง อัตราค่าตอบแทนบุคลากรอยู่ในระดับสูง และไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน 2. องค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ในประเทศไทยได้องค์ประกอบทั้งหมด 10 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) กลยุทธ์ความได้เปรียบทางด้านต้นทุน 2) กลยุทธ์ด้านคุณภาพการให้บริการ 3) กลยุทธ์ด้านการตลาด 4) กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ 5) กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง 6) กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาด 7) กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ 8) กลยุทธ์ด้านทรัพยากรมนุษย์ 9) กลยุทธ์ด้านนวัตกรรม และ 10) กลยุทธ์ด้านสถานที่ โดยมีค่าดัชนี ความสอดคล้องดังนี้ CMIN/DF=1.632, GFI=0.992, CFI=0.991, NFI=0.984, RMR=0.020 และ RMSEA=0.026 3. ความเหมาะสมขององค์ประกอบกลยุทธ์ของการสร้างความเปรียบได้ในการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยทั้ง 10 กลยุทธ์ โดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก ข้อค้นพบจากการวิจัยคือผู้ประกอบการที่มีการนำกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันมาใช้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจได้จะสามารถทำให้การดำเนินธุรกิจสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและประสบความสำเร็จได้
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
Holdings
Item type Current library Collection Call number Copy number Status Date due Barcode
Thesis/Research Thesis/Research PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 วิทยานิพนธ์ ชั้น 5 658.85 ศ662ก 2565 (Browse shelf(Opens below)) 1 Available 1000209943
Thesis/Research Thesis/Research PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 วิทยานิพนธ์ ชั้น 5 658.85 ศ662ก 2565 (Browse shelf(Opens below)) 2 Available 1000209944

วิทยานิพนธ์(บธ.ม.)—มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2565

การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันเป็นปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา อุปสรรค และการดำเนินงานของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ
2) วิเคราะห์องค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยและ 3) ประเมินองค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้ใช้การศึกษาแบบผสมผสาน โดยการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ คณะกรรมการสมาคมส่งเสริมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ นักวิชาการ และผู้ประกอบการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน ด้วยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาส่วนการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างส่วนที่ 1 คือ ผู้บริหารธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 400 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และกลุ่มตัวอย่างส่วนที่ 2 คือ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 10 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบประเมินความเหมาะสม ของกลยุทธ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดา ให้บริการแบบรายเดือนผู้ประกอบการไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุโดยตรง ขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีอัตราการเข้าออกงานสูง อัตราค่าตอบแทนบุคลากรอยู่ในระดับสูง และไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน
2. องค์ประกอบของกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ในประเทศไทยได้องค์ประกอบทั้งหมด 10 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) กลยุทธ์ความได้เปรียบทางด้านต้นทุน
2) กลยุทธ์ด้านคุณภาพการให้บริการ 3) กลยุทธ์ด้านการตลาด 4) กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ 5) กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง 6) กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาด 7) กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์
8) กลยุทธ์ด้านทรัพยากรมนุษย์ 9) กลยุทธ์ด้านนวัตกรรม และ 10) กลยุทธ์ด้านสถานที่ โดยมีค่าดัชนี
ความสอดคล้องดังนี้ CMIN/DF=1.632, GFI=0.992, CFI=0.991, NFI=0.984, RMR=0.020 และ RMSEA=0.026
3. ความเหมาะสมขององค์ประกอบกลยุทธ์ของการสร้างความเปรียบได้ในการแข่งขันของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยทั้ง 10 กลยุทธ์ โดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก ข้อค้นพบจากการวิจัยคือผู้ประกอบการที่มีการนำกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันมาใช้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจได้จะสามารถทำให้การดำเนินธุรกิจสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและประสบความสำเร็จได้

บริจาค

There are no comments on this title.

to post a comment.
Office of Academic Resources and Information Technology

      38 Moo. 8, Nawung Sub-District, Muang Phetchaburi District, Phetchaburi 76000 Thailand

    Tel: (032) 708609 Fax: (032) 708656 Email: library_office@mail.pbru.ac.th