แนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร : วิทยานิพนธ์ = School administration guidelines for developing career skills of students at rajaprachanukroh 20 school, Chumphon province. / กัญญาณัฐ สีเตา
Call number: วพ 371.425 ก384น 2564 Material type: BookPublisher: เพชรบุรี : สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2564Description: 130 แผ่น : 30 ซม. + ซีดีรอม 1 แผ่นOther title: School administration guidelines for developing career skills of students at rajaprachanukroh 20 school, Chumphon provinceSubject(s): มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี สาขาวิชาการบริหารการศึกษา -- วิทยานิพนธ์ | มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี -- วิทยานิพนธ์ -- 2564 | การศึกษา -- การบริหาร -- วิทยานิพนธ์ | นักเรียน -- ทักษะอาชีพ -- วิทยานิพนธ์ | ทักษะอาชีพ -- วิทยานิพนธ์Genre/Form: แนวทางการบริหารสถานศึกษา | ทักษะอาชีพ | โรงเรียนราชประชานุเคราะห์DDC classification: วพ 371.425 ก384น 2564 Online resources: cover | abstract | acknowledgement | content | chapter1 | chapter2 | chapter3 | chapter4 | chapter5 | bibliography | appendix Dissertation note: วิทยานิพนธ์(ค.ม.)—มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2564 Summary: โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร มีภารกิจในการจัดการศึกษาและช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา โรงเรียนจึงมุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพให้นักเรียนสามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในอนาคตได้ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน 2) ระดับทักษะอาชีพของนักเรียน และ 3) แนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงผสมผสาน ประชากรเป้าหมายในการวิจัยเชิงปริมาณเป็นผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน 3 คน ครู 43 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา 10 คน รวม 56 คน และประชากรเป้าหมายในการสนทนากลุ่ม ประกอบด้วยผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน 4 คน ครู 9 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา 2คน รวม 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ประเด็นการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้คือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบ และการปรับปรุงแก้ไข 2. ทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายทักษะพบว่าอยู่ในระดับมากทุกทักษะ เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ความคิดริเริ่มและการชี้นำตนเอง และความเป็นผู้นำ 3. แนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร จากการสนทนากลุ่มพบว่า 1) โรงเรียนควรกำหนดเป้าหมายให้นักเรียนมีอาชีพทุกคน และจัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน และมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าวัสดุในการฝึกอาชีพ 2) โรงเรียนควรส่งเสริมกิจกรรมการฝึกอาชีพโดยร่วมมือกับหน่วยงานและสถานประกอบการอื่น 3) โรงเรียนควรมีการติดตามประเมินผลการพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนอย่างรอบด้าน4) โรงเรียนควรปรับปรุงแก้ปัญหาให้ลุล่วงโดยอาศัยความช่วยเหลือจากฝ่ายอื่นๆ และ 5) โรงเรียนควรมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดี ไม่ทำผิดกฎหมาย และมีความสามารถสูงซึ่งจะมีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น ข้อค้นพบจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริหารสถานศึกษาเพื่อให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องมีการควบคุมกำกับผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้ครูประเมินผลการดำเนินงานร่วมกับสถานประกอบการที่ร่วมฝึกทักษะอาชีพของนักเรียนItem type | Current library | Collection | Call number | Copy number | Status | Date due | Barcode |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Thesis/Research | PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 | วิทยานิพนธ์ ชั้น 5 | วพ 371.425 ก384น 2564 (Browse shelf(Opens below)) | 1 | Available | 1000209836 | |
Thesis/Research | PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 | วิทยานิพนธ์ ชั้น 5 | วพ 371.425 ก384น 2564 (Browse shelf(Opens below)) | 2 | Available | 1000209837 |
Browsing PBRU Library shelves, Shelving location: บรรณราชฯ ชั้น 5, Collection: วิทยานิพนธ์ ชั้น 5 Close shelf browser (Hides shelf browser)
วิทยานิพนธ์(ค.ม.)—มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2564
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร มีภารกิจในการจัดการศึกษาและช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา โรงเรียนจึงมุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพให้นักเรียนสามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในอนาคตได้ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน 2) ระดับทักษะอาชีพของนักเรียน และ 3) แนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงผสมผสาน ประชากรเป้าหมายในการวิจัยเชิงปริมาณเป็นผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน 3 คน ครู 43 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา 10 คน รวม 56 คน และประชากรเป้าหมายในการสนทนากลุ่ม ประกอบด้วยผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียน 4 คน ครู 9 คน และคณะกรรมการสถานศึกษา 2คน รวม 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ประเด็นการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. การบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้คือ การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การตรวจสอบ และการปรับปรุงแก้ไข
2. ทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายทักษะพบว่าอยู่ในระดับมากทุกทักษะ เรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ความคิดริเริ่มและการชี้นำตนเอง และความเป็นผู้นำ
3. แนวทางการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 20 จังหวัดชุมพร จากการสนทนากลุ่มพบว่า 1) โรงเรียนควรกำหนดเป้าหมายให้นักเรียนมีอาชีพทุกคน และจัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน และมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าวัสดุในการฝึกอาชีพ 2) โรงเรียนควรส่งเสริมกิจกรรมการฝึกอาชีพโดยร่วมมือกับหน่วยงานและสถานประกอบการอื่น 3) โรงเรียนควรมีการติดตามประเมินผลการพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนอย่างรอบด้าน4) โรงเรียนควรปรับปรุงแก้ปัญหาให้ลุล่วงโดยอาศัยความช่วยเหลือจากฝ่ายอื่นๆ และ 5) โรงเรียนควรมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดี ไม่ทำผิดกฎหมาย และมีความสามารถสูงซึ่งจะมีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น
ข้อค้นพบจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริหารสถานศึกษาเพื่อให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องมีการควบคุมกำกับผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้ครูประเมินผลการดำเนินงานร่วมกับสถานประกอบการที่ร่วมฝึกทักษะอาชีพของนักเรียน
บริจาค
There are no comments on this title.