ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเทศบาลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : วิทยานิพนธ์ = The relationship between quality of information system for administration and effectveness of academic administration of schools under municipality in Prachuap Khiri Khan Province / อัญชลี ทาทอง
Call number: วพ 372.1 อ525ค Material type:
BookPublisher: เพชรบุรี : สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2555Description: (11), 128 แผ่น : ภาพประกอบ ; 30 ซม. + ซีดีรอม 1 แผ่นOther title: The relationship between quality of information system for administration and effectveness of academic administration of schools under municipality in Prachuap Khiri Khan ProvinceSubject(s): มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา -- วิทยานิพนธ์ | มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี -- วิทยานิพนธ์ -- พ.ศ. 2555 | การบริหารการศึกษา -- ประจวบคีรีขันธ์ -- วิทยานิพนธ์ | การศึกษา -- การบริหาร -- วิทยานิพนธ์ | การศึกษาขั้นพื้นฐาน -- ประจวบคีรีขันธ์ -- วิทยานิพนธ์DDC classification: วพ 372.1 อ525ค Online resources: Fulltext Dissertation note: วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2555 Summary: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณภาพของระบบงานสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2) ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเทศบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จำนวน 263 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยง เบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. คุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับมากและทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการเก็บรวบรวมข้อมูล ด้านการจัดกระทำข้อมูล ด้านการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ด้านการตรวจสอบข้อมูล และด้านการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้
2. ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับมาก และทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ด้านการวัดผลประเมินผล และการเทียบโอนผลการเรียน ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการวิจัยและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการแนะแนวการศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และด้านการนิเทศการศึกษา
3.ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารกับประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเทศบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในภาพ รวมมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ข้อค้นพบจากการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานควรพัฒนาคุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในด้านการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียว กันต้องส่งเสริมการบริหารงานวิชาการด้านการนิเทศการศึกษาให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
| Item type | Current library | Collection | Call number | Copy number | Status | Date due | Barcode |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
Thesis/Research
|
PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 | วิทยานิพนธ์ มรภ.เพชรบุรี ชั้น 5 | วพ 372.1 อ525ค (Browse shelf(Opens below)) | 1 | Available | 1000173426 | |
|
Thesis/Research
|
PBRU Library บรรณราชฯ ชั้น 5 | วิทยานิพนธ์ มรภ.เพชรบุรี ชั้น 5 | วพ 372.1 อ525ค (Browse shelf(Opens below)) | 2 | Available | 1000173427 |
Browsing PBRU Library shelves, Shelving location: บรรณราชฯ ชั้น 5, Collection: วิทยานิพนธ์ มรภ.เพชรบุรี ชั้น 5 Close shelf browser (Hides shelf browser)
วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2555
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณภาพของระบบงานสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2) ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารกับประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเทศบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จำนวน 263 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยง เบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. คุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับมากและทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการเก็บรวบรวมข้อมูล ด้านการจัดกระทำข้อมูล ด้านการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ด้านการตรวจสอบข้อมูล และด้านการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้
2. ประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับมาก และทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ด้านการวัดผลประเมินผล และการเทียบโอนผลการเรียน ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการวิจัยและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการแนะแนวการศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และด้านการนิเทศการศึกษา
3.ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารกับประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเทศบาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในภาพ รวมมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ข้อค้นพบจากการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานควรพัฒนาคุณภาพของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในด้านการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียว กันต้องส่งเสริมการบริหารงานวิชาการด้านการนิเทศการศึกษาให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
บริจาค ; 20/11/2013
There are no comments on this title.